คู่แม่ลูกสร้างสถิติโลกกินเนสส์สำหรับ ” การวิ่งมาราธอนที่เร็วที่สุดในการเข็นวีลแชร์ “

คนเรามีเหตุผลแตกต่างกันในการเลือกที่ใช้การวิ่งเป็นกิจกรรมยามว่าง หรืออาจเป็นกิจวัตรประจำ ไม่ว่าจะเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ เพื่อความท้าทาย หรือเพื่อสุขภาพ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรมันก็ดูเหมือนว่าการวิ่งจะเป็นกิจกรรมที่ดีอย่างหนึ่ง และไม่ต้องลงทุนเยอะด้วย วันนี้ เบาสมอง ก็เลยอยากเอาตัวอย่างหนึ่งที่ตัดสินใจวิ่งด้วยเหตุผลที่ชัดเจน และเขาก็ทำมันออกมาได้ดีด้วย

อีริค โดมิงโก้ โรลแดน เป็นคนที่เรากำลังพูดถึง เพราะการวิ่งเป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยสานความสัมพันธุ์ระหว่างเขากับแม่(ซิลเวีย)ที่นั่งวีลแชร์จากการป่วยเป็นโรคปลอกประสาทอักเสบ (Multiple Sclerosis) หรือ ” โรค MS ” ซึ่งเป็นโรคที่ทำลายเซลล์ประสาทในสมองและไขสันหลัง ตั้งแต่อีริคมีอายุเพียงแค่ 7 ขวบ

เครดิตรูปภาพ: eeriic

เครดิตรูปภาพ: eeriic

พวกเขาทั้งคู่ลงสมัครวิ่งมาราธอนในระยะทาง 26 ไมล์ หรือประมาณ 42 กิโลเมตร โดย  อีริค ได้พาแม่มาเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ด้วย โดยที่เธอนั่งอยู่บนรถวีลแชร์ที่ค่อยให้กำลังใจลูกและอีริคก็เป็นคนเข็นรถไปตลอดทางจนทั้งคู่สามารถเข้าเส้นชัยได้

เครดิตรูปภาพ: eeriic

เครดิตรูปภาพ: eeriic

สิ่งที่อีริคทำนอกจากเป็นการสร้างแรงบันดาลใจแล้ว แต่ยังแสดงให้เห็นส่วนที่ดีที่สุดของการเป็นมนุษย์อีกด้วย และตอนนี้ทั้งคู่ได้ถูกบันทึกสถิติโลกกินเนสส์สำหรับ “การวิ่งมาราธอนที่เร็วที่สุดในการเข็นวีลแชร์ “ ด้วยความเร็ว 2:58:40 (เมื่อปี 2020  พวกเขาทั้งคู่ก็เคยลงแข่งวิ่งมาราธอนมาแล้ว แต่ตอนนั้นเวลาขาดไป 1 นาที 21 วินาที เลยทำให้เขาไม่ถูกบันทึกจากกินเนสส์)

เครดิตรูปภาพ: eeriic

เครดิตรูปภาพ: eeriic

อีริค กล่าวว่า ” ต้องขอบคุณกีฬา เพราะมันช่วยเปลี่ยนสถานการณ์ด้านลบที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจของพวกเขาอย่างมาก ให้กลายเป็นแรงจูงใจ และความตั้งใจที่จะมีชีวิตอยู่ “

เครดิตรูปภาพ: eeriic

เครดิตรูปภาพ: eeriic

อีริค บอกอีกว่า ” พวกเขารู้สึกดีใจมากที่สามารถทำตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ได้ นั่นก็คือการถูกบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ เพราะมันเป็นความท้าทายทั้งเขาและแม่ เพราะที่ผ่านมาแม่ของเขาต้องเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ มากมายตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก และนี่คือรางวัลตอบแทนที่เขาสามารถทำให้เธอได้ ซึ่งเธอก็ประทับใจมากเช่นกัน ”

เครดิตรูปภาพ: eeriic

เครดิตรูปภาพ: eeriic

ตั้งแต่นั้นมาทั้งคู่ก็ยังคงแข่งขันกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรค MS และความสำคัญของสุขภาพจิต จนกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและความคิดในแง่บวกไปแล้ว

เครดิตรูปภาพ: eeriic

ตอนนี้ทั้งคู่ได้จัดแคมเปญชื่อ #42kmcorriEMdo ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อระดมทุนมากกว่า 3,000 ดอลลาร์ รายได้ทั้งหมดมอบให้กับมูลนิธิโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็งเพื่อการวิจัยขั้นสูงเกี่ยวกับโรคนี้ ช่างถือเป็นเรื่องที่ดีงามจริง ๆ ปรบมือรัว ๆ

ขอบคุณที่มา instagram | เรียบเรียงโดย เบาสมอง