เราทุกคนต้องผ่านประสบการณ์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตเป็นครั้งคราวไม่ว่าจะเป็นงานหรือชีวิตส่วนตัวของเรา มันอยู่ที่ว่าเรานั้นจะสามารถเรียนรู้จักการเปลี่ยนแปลงได้มากเพียงไหน สำหรับบางคนอาจจะได้แรงบันดาลใจบางอย่างจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นอย่างเช่นหนุ่มคนนี้
เขามีชื่อว่า โบยาน สแลต( Boyan Slat ) นักสิ่งแวดล้อมและนักประดิษฐ์ชาวเนเธอร์แลนด์ ที่ครั้งหนึ่งตอนที่เขาอายุ 16 ปี เขาเคยไปดำน้ำที่กรีซ และเขาตกใจมากที่ได้เห็นพลาสติกที่ถูกทิ้งลงทะเลมากกว่าสัตว์น้ำที่มีอยู่ เขาเลยสาบานกับตัวเองว่าเมื่อเขาโตขึ้นเขาจะต้องทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้
ตอนนี้ โบยาน สแลต อายุได้ 25 ปีแล้วเขากลายเป็นนักสิ่งแวดล้อมและนักประดิษฐ์อย่างเต็มตัว เขาได้เริ่มสร้างโครงการ The Ocean Cleanup โดยเป็นการเก็บขยะในแม่น้ำด้วยเรือที่เขานั้นคิดค้นมันขึ้นมา
เรือลำดังกล่าวมีชื่อว่า Inceptor มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อจัดการกับปัญหาขยะจำนวนมากในแม่น้ำ มันใช้พลังานแสงอาทิตย์ในการขับเคลื่อนในการดูดสิ่งสกปกจากแม่น้ำ และมหาสมุทรที่ได้มากถึงวันละ 110 ตันต่อวัน จากนั้นขยะก็ถูกนำขึ้นมาบนเพื่อทำการคัดแยกและเอาไปจัดการต่อ
เรือ Interceptor ทำงานโดยมีที่ดักขยะพลาสติกขนาดใหญ่ ตักขยะให้ลอยเข้าสู่ประตูหน้าเครื่อง เมื่อขยะแยกออกจากน้ำ ก็จะไหลไปสู่สายพาน เพื่อนำส่งไปเก็บในถังขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 6 ถัง แต่ละถังมีความจุประมาณ 50 ลูกบาศก์เมตร นอกจากนี้ ระบบของเรือเก็บขยะยังเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่นที่สามารถควบคุมและตรวจสอบข้อมูลได้บนสมาร์ทโฟน ทำให้มอนิเตอร์ข้อมูลได้ตลอดเวลา
The Ocean Cleanup เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร พวกเขาทำการศึกษาถึงต้นตอของขยะที่อยู่ในมหาสมุทรว่ามันเกิดจากอะไร และพวกเขาก็ได้ข้อมูลว่า ” ขยะจากแม่น้ำนับ 1,000 สายทั่วโลกเป็นแหล่งกำเนิดของพลาสติกประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ที่ถูกเทลงสู่มหาสมุทร ”
ในแต่ละวันเรือ Inceptor จะถูกส่งออกไปในมหาสมุทรเพื่อที่จะทำความความสะอาดขยะพวกนี้ พวกเขาหวังว่าในปี 2025 จะสามารถเคียร์ขยะของแม่น้ำสายต่างๆ เหล่านั้นได้หมด
นอกจากโครงการ The Ocean Cleanup ก็ยังมีโครงการอื่นอีกที่พยายามจะช่วยกันจัดการขยะด้วยการปล่อยอุปกรณ์ลอยตัวแบบพาสซีฟเพื่อใช้ในการดักเก็บขยะ
#
การเก็บขยะใต้น้ำเป็นหนึ่งในวิธีการปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้สะอาดขึ้น แต่อีกวิธีสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ คือการไม่เพิ่มปริมาณขยะลงไปยังแหล่งน้ำ นั่นจึงจะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุและแก้ไขได้อย่างยั่งยืน
ขอบคุณที่มา boredpanda | เรียบเรียงโดย เบาสมอง
