ภาพวาดกิจกรรมบนกำแพง หลังจากที่ล็อกดาวน์ 113 วัน

ตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดทำให้การใช้ชีวิตของหลายคนเปลี่ยนไป เพราะด้วยมาตราการที่รณรงค์ให้ต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน หลายคนก็เริ่มที่จะหาสิ่งต่าง ๆ ทำเพื่อแก้เหงา ซึ่งบางคนอาจค้นพบตัวเองว่าถนัดอะไร และนำไปสู่เปลี่ยนอาชีพไปเลยก็มี หรือบางคนก็อยากที่จะบันทึกความทรงจำว่าตลอดช่วงเวลาที่ต้องกักตัวอยู่บ้านพวกเขาได้ทำอะไรไว้บ้าง

วันนี้ เบาสมอง อยากแนะนำให้ท่านได้เห็นผลงานของศิลปินท่านหนึ่งที่ได้บันทึกไดอารี่ของเขาด้วยการวาดเป็นภาพบนผนังกำแพง เพื่อให้เห็นว่าตลอดเวลา 113 วันที่เขาต้องอยู่บ้านนั้น เขามีกิจกรรมอะไรบ้างที่ต้องทำซึ่งโดยรวมแล้วมันเป็นภาพที่น่าทึ่งมาก

นี่คือพื้นที่ที่เขาเลือกที่จะใช้ในการวาดภาพไดอารี่

ภาพวาดวันที่ 1 เริ่มตั้งแต่ 25 มีนาคม 2563

กิจกรรมทั้งหมดจะถูกบันทึกเป็นภาพวาด

เขาใช้สีอะครีลิคทั้งสีดำ และสีน้ำเงินเพื่อวาดภาพกิจกรรมโดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 นับจากที่ทางสหราชอาณาจักรได้มีการประกาศล็อคดาวน์

ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์แล้วเร็วมากสำหรับเขา 

กิจกรรมทั้งหมดถูกบันทึกเอาไว้เป็นความทรงจำ

นี่คือภาพพิมพ์ที่เป็นส่วนหนึ่งในงานประจำที่เขาทำ

เขาได้บันทึกกิจกรรมทั้งหมดที่ทำในแต่ละวันไม่ว่าจะเป็นการทำอาหาร หรือทำหน้ากากป้องกันเพื่อนำไปมอบให้กับบ้านพักคนชรา หรือแม้กระทั่งกีฬาที่เขาเล่น โดยจะเริ่มวาดภาพบันทึกในช่วงเย็นของแต่ละวัน

วันที่ 26 

ส่วนด้านบนเริ่มเต็มแล้ว

จนกระทั้งผ่านไป 113 วัน ภาพวาดบันทึกความทรงจำของเขาก็เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งมันเป็นภาพวาดบนผนังที่ดูโดยรวมแล้วมีเสน่ห์ และเชื่อว่ามันจะเตือนความทรงของเขาไปอีกนาน

ปุ่มสีเหลืองคือลูกบิดอันเก่าของลิ้นชักที่ถูกเปลี่ยน

50 วันผ่านไป

โครงการที่เขาวางเอาไว้ผ่านมาได้เกินครึ่งทางแล้ว

ตลอดเวลาที่ผ่านมาทำให้เห็นว่ากิจกรรมที่เขาทำมันเยอะมาก 

สิ่งที่ยากที่สุดคือการวาดภาพขณะนั่งบนพื้น

เรื่องราวที่ถูกบันทึกเอาไว้บนกำแพงนี้มีทั้งเสียงหัวเราะ และรอยน้ำตาตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ศิลปินท่านนี้ยังฝากถึงผู้คนที่ต้องอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกับเขาว่า ” การได้หาอะไรบ้างอย่างทำมันจะช่วยลดคความเครียดได้เป็นอย่างดี ดังนั้นคุณควรมองสิ่งที่อยู่รอบตัว และลองลงมือทำ “

อีกนิดเดียวเท่านั้น

วันที่ 102

วันสุดท้าย 113 วัน ของการกักตัวอยู่ที่บ้าน

ทุกอย่างถูกบันทึกเอาไว้บนกำแพงนี้

เสร็จเรียบร้อยแล้ว

ช่วงนี้สถานการณ์การติดเชื้อมันยังไม่ดีขึ้นมีหลายคนที่ต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล หรือศูนย์เฝ้าระวังต่าง ๆ รวมไปถึงผู้ที่ต้องกักตัวอยู่บ้าน 14 วันเพื่อเฝ้าอาการอย่างน้อยเรื่องราวนี้ก็อาจเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายคนที่ยังไม่รู้ว่าทำอะไรดี ได้ลองลุกขึ้นมาทำมันดูบ้าง สู้ ๆ นะทุกคน

ขอบคุณที่มา instagram | เรียบเรียงโดย เบาสมอง