เรื่องนี้กลายเป็นไวรัลในต่างประเทศที่ทำเอาชาวเน็ตที่รักสัตว์หลายคนออกมาแสดงความคิดกันหลายมุมมองมาก เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 เมื่อมีเด็กน้อยคนหนึ่งตัดสินใจที่จะช่วยเหลือสุนัขที่เขารัก ด้วยการเอามันหนีออกจากบ้าน และไปขอความช่วยเหลือกับศูนย์ที่พักพิงสัตว์
ศูนย์พักพิงสัตว์แห่งนี้ชื่อว่า ซอลลิน เช้าวันหนึ่งเจ้าหน้าที่ของศูนย์ไปเจอกล่องที่วางเอาไว้ที่หน้าประตูของศูนย์ เจ้าหน้าที่เลยเขาไปเปิดดูว่าด้านในนั้นมีอะไร เมื่อเขาเปิดกล่องก็ได้เห็นว่ามันมีสุนัขอยู่หนึ่งตัว พร้อมทั้งกระดาษที่เขียนข้อความบางอย่างเอาไว้
ข้อความภายในกระดาษนั้นเขียนเอาไว้ว่า ” ผมชื่อว่าอังเดร ตอนนี้ผมอายุ 12 ปี แม่ของผม และผมตัดสินใจที่จะเอาสุนัขมาฝากให้พวกคุณดูแล เนื่องจากมันมีปัญหาเมื่อพ่อของผมต้องการจะขายเจ้าสุนัขตัวนี้หลายครั้งแล้ว อีกทั้งยังเตะสุนัขอยู่เสมอ เขาเตะสุนัขอย่างแรงจนหางของมันบาดเจ็บ ฉันหวังว่าคุณสามารถช่วยมัน และดูแลมันได้ ผมจะไม่มีวันลืมเลยว่ามันคือสิ่งที่ผมมากขนาดไหน “
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้อ่านข้อความ พวกเขาก็เข้าใจความรู้สึกของเด็กหนุ่มเป็นอย่างดีศูนย์ที่พักพิงสัตว์ซอลลิน ได้พาสุนัขไปให้สัตว์แพทย์ตรวจสุภาพ พร้อมทั้งทำความสะอาดตัวของมันเพื่อเป็นการกำจัดปรสิตต่าง ๆ ก่อนที่จะเอามันเข้าไปอาศัยที่ศูนย์พักพิง
แต่เนื่องจากศูนย์แห่งนี้มันมีสัตว์จำนวนมากที่ต้องดู และอีกทั้งเรื่องงบประมาณที่จำกัด ในการซื้ออาหาร และรักษาสัตว์ต่างๆ ที่อยู่ก่อนหน้านี้ด้วย
หลังจากนั้นทางที่พักพิงสัตว์ซอลลินก็ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านทางเพจของพวกเขา เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นไม่นานก็มีผู้คนที่ต้องการรับสุนัขตัวนี้ไปเลี้ยงส่งข้อความเข้ามามากกว่า 300 ข้อความ
ทางศูนย์ที่พักพิงสัตว์ซอลลิน ยังบอกผ่านเพจของเขาอีกด้วยว่า ” หากมีคนไหนที่ใจบุญ และอยากเราสัตว์พวกนี้ไปเลี้ยงดูก็ได้นะ แต่คุณต้องดูแลพวกมันให้ดี ๆ เพราะยังมีสัตว์ที่ถูกทารุณกรรมนับล้านในโลก และพวกเขาต้องการความรัก และครอบครัวที่มีความสุข “
บางคนไม่พร้อมที่รับเอาพวกมันไปเลี้ยงดู พวกเขาก็เลือกที่แวะเวียนเขามาเยี่ยมเยือนสัตว์เหล่านี้พร้อมทั้งมอบเงิน และซื้ออาหารมาฝากพวกมันด้วย
หลังจากที่ได้อ่านบทความนี้แล้ว คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ เด็กชายและแม่ของเขาทำสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่?
ขอบคุณที่มา Facebook | Instagram | เรียบเรียงโดย เบาสมอง
